Another / Other Others / The Other The Others ต่างกันยังไง ในภาษาอังกฤษ
Others Other Another เป็นคำศัพท์ที่เรียกได้ว่าใช้บ่อยมากๆ และเจอบ่อยมากๆ ทั้งชีวิตจริง และการสอบ TOEIC จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากที่จะเข้าใจครับ ดังนั้นมาเข้าใจมัน แล้วจำให้ขึ้นใจ
Another
– เป็นทั้ง adj และ noun
– another + นามนับได้ #เป็นเอกพจน์
ความหมายแรก “อันอื่น” หรือ “อีกอัน” ในความหมายนี้จะสื่อความหมายว่า หนึ่งหรืออีกบุคคลหนึ่งซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับสิ่งหนึ่งหรือบุคคลหนึ่งที่ได้พูดถึงไปแล้ว
ตัวอย่าง
Would you like another cup of tea?
คุณต้องการชาอีกแก้วไหม
He has another brother.
เขามีพี่ชายอีกคนหนึ่ง
Can we go to another restaurant?
ไปร้านอื่นได้ไหม
Other และ Others
Other + นามนับได้ #เป็นพหูพจน์ แปลว่า อื่นๆ
อื่นๆ ที่ว่าคือ ไม่เจาะจง
เช่น other people คนอื่นๆ, other books หนังสือเล่มอื่นๆ, other toys ของเล่นอื่นๆ
ตัวอย่าง
Do you have other shoes?
แกมีรองเท้าคู่อื่นปะ
You should be nice to other people.
เธอควรทำดีกับคนอื่น ๆ นะ
Others
ใช้โดดๆ ไม่บวกคำนาม ความหมายมันเหมือน other + นามพหูพจน์
เราใช้เหมือนเป็นตัวย่อของ other + นามพหูพจน์
I want this book and I also want others too.
ฉันอยากได้หนังสือเล่มนี้ และก็อยากได้เล่มอื่นๆด้วย
(ความหมายเดียวกับ I want this book and I also want other books too.)
จะเห็นได้ว่า Others จะถูกใช้เป็น pronoun ส่วน Other จะเป็น adj
และเป็นแปลว่าอื่นๆ ที่ไม่เจาะจง
The other กับ The others
ทั้ง Another และ Other นั้น ใช้กับสิ่งที่ไม่เจาะจงทั้งคู่ แล้วถ้าอยากจะพูดว่าอื่นๆ ที่เจาะจง ที่ specific ต้องใช้อะไร
เราจะใช้ The other กับ The others แทนครับ
the other + นามนับได้ #เอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ แปลว่า อีกส่วนที่เหลือทั้งหมด
เวลาใช้ การสื่อสารจะต้องเป็นการสื่อสารที่ทำให้รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไรอยู่
ตัวอย่างเช่น
I have put the “TOEIC book” into the bag already. Would you like the other books too?
ฉันเอาหนังสือโทอิคใส่กระเป๋าแล้วนะ เธออยากให้เอาหนังสือเล่มไหนใส่อีกไหม
Jim ate two cookies. I ate the others.
จิมกินคุ้กกี้ไปสองชิ้น ส่วนฉันกินคุ้กกี้ที่เหลือ
เราจะไม่มันพูดแบบลอยๆ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไรอยู่
สำหรับ The others นั้นก็ทำหน้าที่เป็นคำย่อของ the other + นามนับได้ ที่ทำหน้าที่เป็น pronoun ครับ
ตัวอย่าง
I took one book out of the bag and left the others in there.
ฉันหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และเอาที่เหลือทิ้งไว้ในกระเป๋า
สรุป สั้นๆ
Another + นามนับได้ #เอกพจน์ แปลว่า อีกอันหนึ่ง
ไม่ได้จะเจาะจงว่าต้องเป็นชิ้นไหน แค่ขออีกชิ้นเป็นประเด็นสำคัญ
Other + นามนับได้ #พหูพจน์ แปลว่า อื่นๆ
ไม่เจาะจง ความหมายแค่จะบอกว่าเป็นคนอื่นๆ หรือ สิ่งอื่นๆ เท่านั้นเอง
Others ใช้โดดๆ ไม่บวกคำนาม ความหมายมันเหมือน other + นามพหูพจน์
The other + นามนับได้ #เอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ แปลว่า อีกส่วนที่เหลือทั้งหมด
เจาะจงว่าพูดถึงสิ่งไหน และในบริบทสนทนาต้องรู้ว่ากำลังพูดถึงอะไร
The others ใช้โดดๆ ไม่บวกคำนาม ความหมายมันเหมือน The other + นามพหูพจน์
มีตัวอย่างมาให้ลองเล่นกันดูครับ
มีลูกบอลอยู่สามลูก ลูกแรกสีแดง ลูกที่สองสีน้ำเงิน ลูกที่สามสีเขียว
There are three balls. The first one is red. Another one is blue. The other one is green.
*Note เมื่อไหร่ที่เราใช้ Another one จะแปลว่า อีกอันหนึ่งที่เจาะจงนะ
มีลูกบอล 5X,XXX ลูกเป็นสีแดงแต่ไม่รุ้จำนวนแน่นอน ในนั้นมีลูกเดียวที่เป็นสีเขียว
One of the balls is green. Others are red.
ใช้ others เพราะว่าไม่รู้จำนวนแน่นอน แต่รู้ว่ามากกว่า 1
มีลูกบอล 12 ลูก 10 ลูกเป็นสีแดง อีกลูกสีเขียว อีกลูกเป็นสีดำ
The first one is green. Another one is black. The others the other balls) are red.
ใช้ the others เพราะว่ารู้จำนวนแน่นอน และรู้ว่ามีมากกว่าหนึ่ง
สุดท้ายก่อนจากกันไป
ผมอยากจะย้ำให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าสุดท้ายแล้ว โทอิคต้องการวัดที่ความเข้าใจภาษาอังกฤษของเราครับ แค่การอ่านนั้น ไม่ช่วยทำให้เราเข้าใจได้ดีสักเท่าไหร่ ซึ่งวิธีเดียวที่จะทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นนั้นคือ “การฝึกฝนครับ”
กรณีนี้ ถ้าเราไม่อยากพลาดคะแนนโทอิค Reading พาร์ทแกรมม่า เราต้องฝึกฝนทำโจทย์ Grammar พาร์ท 5 และ 6 ให้เยอะครับ และแบบทดสอบนั้นควรมีเฉลยที่อธิบายให้รู้ด้วยว่า ที่เราถูกนั้นถูกเพราะอะไร และผิดเพราะอะไร