ประโยชน์ของอัลมอนด์ อัลมอนด์ เป็นถั่วประเภท Tree Nut ซึ่งให้คุณค่าสารอาหารต่อร่างกายมากกว่าถั่วประเภทคลุมดินอย่างถั่วลิสงหรือ ถั่วเขียว และอัลมอนด์ยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมีคุณประโยชน์มากมาย จากงานวิจัยเชื่อว่าอัลมอนด์ 10 เมล็ด หรือ 23 ออนซ์ ในปริมาณนี้ทำให้ได้รับวิตามินอีเกือบครึ่งที่ควรได้รับต่อวัน และมีคุณค่าแอนตี้ออกซิแดนต์เท่ากับชาเขียวแท้ๆ 1 แก้ว อัลมอนด์ในปริมาณเศษ 1 ส่วน 4 ถ้วยตวง มีปริมาณแคลเซียมเท่ากับนมในจำนวนที่เท่ากัน ที่สำคัญก็คืออุดมไปด้วยแคลเซียมและสารสารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของอัลมอนด์
- อัลมอนด์มีประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
- ประโยชน์ของอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
- ช่วยบำรุงระบบประสาท และช่วยเพิ่มสติปัญญาและสมาธิให้มากขึ้น
- ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยเสริมสร้างเซลล์และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ฯลฯ
- การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้ถึง 50%
- ในเปลือกอัลมอนด์มีฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่สามารถทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (งานวิจัยจาก Tufts University)
- ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50% เพราะช่วยในการหลั่งอินซูลินหลังอาหาร ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นถูกดูดซึมเก็บไว้ที่ตับและเนื้อเยื่ออื่น ๆ จึงมีผลทำให้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
- อัลมอนด์ลดน้ําหนัก จากงานวิจัยหลายอย่างระบุว่า ผู้ที่รับประทานถั่วหรืออัลมอนด์เป็นประจำ จะมีน้ำหนักตัวลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่าผู้ที่ไม่เคยรับประทานถั่ว โดยผู้ที่รับประทานถั่วอัลมอนด์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ร้อยละ 31% พบว่ามีน้ำหนักตัวที่ลดลง ถึงแม้ว่าถั่วอัลมอนด์จะมีไขมันที่สูงมากก็ตาม (บทความจาก WHFoods)
- อัลมอนด์ลดความอ้วน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) และลดระดับไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยงานวิจัยจากสถาบันชั้นนำในอเมริกาและยุโรปพบว่า การรับประทานอัลมอนด์วันละ 1 หยิบมือจะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ถึง 4.4% แต่ถ้ารับประทานวันละ 2 หยิบมือก็จะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ 9.4%
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยป้องกันอาการท้องผูก เนื่องจากอัลมอนด์มีเส้นใยอาหารในปริมาณมาก มันจึงช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว จากฐานข้อมูลจาก Nurses’ Health Study จากผู้หญิงกว่า 80,000 รายแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงที่รับประทานถั่วอย่างน้อย 1 ออนซ์ต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วได้ถึง 25%
- อัลมอนด์เป็นถั่วที่มีโปรตีนสูงมาก ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างความเจริญเติบโต ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของกรดด่างในร่างกาย ฯลฯ
- เมล็ดอัลมอนด์มีโพสแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
- การรับประทานอัลมอนด์จะช่วยลดการกินจุบจิบ และการรับประทานทุกวันก็จะช่วยระงับความหิวได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการไดเอ็ตไปด้วยในตัวเลยทีเดียว
- สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัว คุณสามารถรับประทานถั่วอัลมอนด์แทนของหวานหรือขนมขบเคี้ยวในระหว่างวันได้อย่างสบายใจ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้วยังได้คุณค่าจากธรรมชาติไปเต็ม ๆ และยังช่วยลดน้ำหนักไปในตัวด้วย
- นอกจากนี้อัลมอนด์ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะถั่วชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
- เมล็ดอัลมอนด์สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น อัลมอนด์อบเกลือ อัลมอนด์อบเนย คุกกี้อัลมอนด์ เค้กอัลมอนด์ น้ำมันอัลมอนด์ ฯลฯ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.primotrading.co.th/