มารู้จักกับ USB Type-C ว่ามีกี่แบบ

ปัจจุบันพอร์ต USB มีการพัฒนามาหลากหลายเวอร์ชั่น แต่ที่เราคงเคยได้ยิน หรือคุ้นเคย ก็คือ USB 1.1, USB 2.0 และ USB 3.0 เป็นต้น

USB Type C คืออะไร

USB Type-C เป็นชื่อเรียกหัวเชื่อมต่อ USB รูปแบบหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกและง่ายกว่าหัวเชื่อมต่อ USB แบบ Type-A หรือ Type-B โดยตัวอักษร C หมายถึงลักษณะทางกายภาพของหัวเชื่อมต่อชนิดนี้ที่มีรูปทรงแบนยาวที่มุมสองข้างซ้าย-ขวาโค้งเข้าหากัน จุดเด่นสำคัญคือสามารถเสียบใช้งานด้านใดก็ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเสียบผิดด้านที่มักพบเจอบ่อย ๆ ใน USB Type-A และ Type-B นอกจากนี้ยังมีอัตราการส่งข้อมูลที่สูงกว่า

สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลได้เร็วขึ้น โดย USB Type-C นั้นสามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลได้สูงสุดถึง 10 Gbps เรียกว่าสามารถถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วกว่าเดิมเป็นสองเท่าของ USB เวอร์ชัน 3.0 ที่สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้ที่ 5 Gbps จึงทำให้ USB Type-C มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมสำหรับการถ่ายโอนไฟล์ใหญ่ๆ หรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับสมาร์ททีวี

ข้อดีของ USB Type C

มีขนาดเล็กและแบน ใช้พื้นที่น้อยกว่า USB Type-A และ Type-B ทำให้สามารถออกแบบให้อุปกรณ์ให้มีความบางได้มากกว่า
สามารถสลับเสียบด้านใดก็ได้ ไม่มีปัญหาเสียบผิดด้าน ใช้งานสะดวกและยืดหยุ่นกว่า
รองรับโปรโตคอลได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ถ่ายโอนข้อมูล ส่งสัญญาณภาพและเสียง จ่ายกระแสไฟฟ้า เป็นต้น
มีอัตราการส่งข้อมูลที่สูงกว่า USB Type-A และ Type-B

ตัวเลขเวอร์ชันของพอร์ต USB แต่ละพอร์ตเอาไว้ชัดเจน เช่น USB 2.0, 3.0, 3.1, 3.2

เวอร์ชัน	ชื่ออย่างเป็นทางการ	ชื่อเก่า / ชื่อย่อ	ความเร็ว
USB Type C 3.2 Gen 1×1	SuperSpeed USB 5Gbps	USB 3.0, USB 3.1 Gen 1	5 Gbps
USB Type C 3.2 Gen 2×1	SuperSpeed USB 10Gbps	USB 3.1, USB 3.1 Gen 2	10 Gbps
USB Type C 3.2 Gen 1×2	–	USB 3.2	10 Gbps
USB Type C 3.2 Gen 2×2	SuperSpeed USB 20Gbps	USB 3.2	20 Gbps

สรุป

จากพอร์ต Type C ทั้ง 4 แบบทั้งหมด จะเห็นว่าพอร์ต Thunderbolt 3 นั้นดีที่สุด การใช้งานครอบจักรวาลที่สุด ณ เวลานี้เลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่โน้ตบุ๊คเป็น USB Type C ธรรมดาอยู่แต่อยากจะต่อจอแยกสามารถซื้อ Hub type C แปลงเป็นพอร์ต HDMI หรือ VGA ได้เช่นกันครับ โดยจะมีราคาตั้งแต่หลักร้อยยันหลายพันเลยทีเดียว (ต้องดูดีๆ ด้วยว่าใช้กับ Hub เป็น Type C ธรรมดาหรือ Thunderbolt 3)

Thunderbolt 3 เป็นพอร์ตที่ครบเครื่องที่สุด สามารถทำได้ทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งสามข้อแรก โดยสามารถโอนถ่ายไฟล์ความเร็วสูงถึง 40Gbps จ่ายไฟได้ถึง 100W ต่อจอแยกได้ และที่สำคัญคือสามารถต่อ eGPU หรือกล่องการ์ดจอเสริมได้เพื่อเปลี่ยนโน้ตบุ๊คบางเบาเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คเล่นเกมได้