มารู้จักกับหุ้น TESLA และการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจการ
เจ้าของ TESLA คือ คุณ Elon Reeve Musk ผู้โด่งดังโดยบริษัท TESLA ในปัจจุบันมีขนาดของกิจการ หรือ Market Cap สูงกว่าธุรกิจผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม อย่าง GM และ FORD ไปเป็นที่เรียบร้อยในอเมริกา
บริษัทมียอดขายที่ประกาศในงบการเงินเติบโตขึ้นทุกปี ถ้าเรานับเริ่มตั้งแต่ปี 2012 ที่มียอดขายทั้งปีแค่หลักร้อยล้านเหรียญเท่านั้น จนในปัจจุบันยอดขายเติบโตหลักพันล้านเหรียญต่อปีเข้าไปแล้ว ถือว่าเป็นหุ้นเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ยอดขายของ TESLA มาจากอะไร
ยอดขายของ TESLA มาจากการขายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ของเขาก็เข้าสู่ Model 3 เป็นที่เรียบร้อย โดยล่าสุดมียอดจองรถโมเดลนี้แล้วกว่า 4 แสนคัน ราคาขายต่อคันเฉลี่ย 1.4 ล้านบาท คิดคร่าวๆ รายได้เขา TESLA จะทำเงินจากการขายรถได้ 5 – 6 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
โมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของ TESLA นั้นจะใช้แหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์กลไกมากมายแต่อย่างใดเลยครับ ว่ากันว่า “จำ
ความเสี่ยงก็คือ การเข้ามาของคู่แข่ง เพราะค่ายรถยนต์ยุคเดิมหลายค่ายต่างก็ซุ่มทำวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้โด่งดังเหมือนกับ TESLA ทำ … และหากรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้จริง เจ้าเก่าก็น่าจะตบเท้าเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งชิงความอยู่รอดแน่ๆ และประเทศที่น่ากลัวก็คือ พี่จีนของเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตามหุ้น TESLA ในอเมริกาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาหุ้นที่โตเร็วกว่ากำไร (ที่ยังไม่มา) นั่นไม่ใช่ว่าคนอเมริกาไม่ฉลาด ดันไปซื้อหุ้นที่กำไรไม่มี เงินปันผลไม่มา แต่เป็นเพราะว่า คนเล่นหุ้นกำลังเก็งกำไรกับเรื่องราวของ “ซุปเปอร์แบตเตอรี่” ที่หากทำสำเร็จจะปฏิรูปวงการไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งโลกต่างหาก … โดยเทสล่าเองก็ได้เริ่มเดินเครื่องไปไหนหลายๆ มิติ ทั้งการควบรวมกิจการกับเจ้าอื่นๆ และการทำวิจัยอย่างลับๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของบริษัทอย่าง Elon Reeve Musk ก็น่าจับตามองไม่แพ้ตัวบริษัทเลยครับ ความฝันอันสูงสุดของเขาก็คือ จะเห็นมนุษย์โลกไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร … โอ … คิดได้ไง!! ผมว่าลีลาของเจ้าของมันช่างดูตื่นเต้นไม่แพ้ราคาหุ้นเทสล่าเลยทีเดียว
นวน” ชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะพอๆ กับไอโฟนเครื่องหนึ่งเท่านั้นเอง แต่กำลังการผลิตของ TESLA ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันสามารถผลิตรถยนต์ได้แค่ปีละหลักพันคันเท่านั้น กว่าจะส่งมอบรถ