รูปเรขาคณิตสองมิติ ( two – dimensional geometric figure ) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะของขอบหรือด้านของรูป ได้แก่ กลุ่มที่มีขอบหรือด้านของรูปเป็นส่วนของเส้นตรง กลุ่มนี้คือ “รูปหลายเหลี่ยม ( polygon )” และกลุ่มที่มีขอบหรือด้านเป็นเส้นโค้งงอ เช่น รูปวงกลม และรูปวงรี เป็นต้น กลุ่มนี้ไม่มีชื่อเรียกโดยเฉพาะ
รูปหลายเหลี่ยม (Polygon) เป็นรูปปิดที่เกิดจากส่วนของเส้นตรงตั้งแต่ 3 เส้นขึ้นไป โดยที่จุด A, B, C, … , P, Q,… เป็นจุดที่แตกต่างกันบนระนาบ และไม่มี 3 จุดใดอยู่ร่วมส่วนของเส้นตรงเดียวกัน เรียกว่า “ด้านของรูปหลายเหลี่ยม” จุด A, B, C, … , P, Q,… เรียกว่า “จุดยอด” จำนวนมุมในรูปหลายเหลี่ยมจะเท่ากับจำนวนด้านของรูปหลายเหลี่ยม ส่วนของเส้นตรงที่ลากเชื่อมจุดยอดที่ไม่ใช่ปลายของส่วนของเส้นตรงเดียวกัน เรียกว่า “เส้นทแยงมุม ( diagonal )”
รูปหลายเหลี่ยมด้านเท่ามุมเท่า ( regular polygon ) คือ รูปหลายเหลี่ยมที่มีด้านทุกด้านยาวเท่ากันและมุมทุกมุมมีขนาดเท่ากัน
รูปสามเหลี่ยม (Triangle) เป็นรูปหลายเหลี่ยมชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยด้านที่เป็นส่วนของเส้นตรง 3 เส้น ส่วนของเส้นตรงทั้งสามนี้ต้องอยู่บนระนาบเดียวกัน ซึ่งทำให้เกิดมุม 3 มุม
ที่มาของภาพ : http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/930-00/
ข้อสังเกต
1. ความสูงของรูปสามเหลี่ยมเป็นเท่าใด ขึ้นอยู่กับว่าให้ด้านใดเป็นฐานของรูปสามเหลี่ยม ความสูงมีได้ 3 ค่า ซึ่งอาจจะมีค่าต่างกัน
2. ส่วนสูงของรูปสามเหลี่ยม อาจจะอยู่ในหรือนอกรูปสามเหลี่ยมก็ได้
ชนิดของรูปสามเหลี่ยม การจำแนกรูปสามเหลี่ยม มีเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี้
1. พิจารณาจากความยาวของด้านจำแนกได้ดังนี้
1.1 รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ( equilateral triangle ) คือ รูปสามเหลี่ยมที่มีด้านทั้งสามยาวเท่ากัน
1.2 รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ( isosceles triangle ) คือ รูปสามเหลี่ยมที่มีด้านสองด้านยาวเท่ากัน
1.3 รูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า ( scalene triangle) คือ รูปสามเหลี่ยมที่ไม่มีด้าน 2 ด้านใดยาวเท่ากัน
2. พิจารณาจากขนาดของมุม จำแนกได้ดังนี้
2.1 รูปสามเหลี่ยมมุมแหลม ( acute triangle ) คือ รูปสามเหลี่ยมที่มีมุมทั้งสามมีขนาดเล็กกว่า มุมฉาก
2.2 รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ( right triangle ) คือ รูปสามเหลี่ยมที่มีมุมมุมหนึ่งมีขนาดเท่ากับ มุมฉาก
2.3 รูปสามเหลี่ยมมุมป้าน ( obtuse triangle ) คือ รูปสามเหลี่ยมที่มีมุมมุมหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามุมฉาก
หมายเหตุ รูปสามเหลี่ยมมุมแหลมนอกระบบยูคลิด คือ รูปสามเหลี่ยมที่มุมทั้งสามมีขนาดเล็กกว่ามุมฉาก ซึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมที่ไม่ได้เกิดจากส่วนของเส้นตรงสามเส้น และมุมภายในทั้งสามรวมกันได้น้อยกว่า 180o
รูปสี่เหลี่ยม (Quadrilateral) เป็นเส้นโค้งปิดเชิงเดียว ประกอบด้วยส่วนของเส้นตรง 4 เส้นที่อยู่บนระนาบเดียวกัน ส่วนของเส้นตรงแต่ละเส้น เรียกว่า ด้านของรูปสี่เหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยมใดๆ ประกอบด้วยด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม
ที่มาของภาพ : http://www.myfirstbrain.com/teacher_view.aspx?ID=45982
– ส่วนประกอบของรูปสี่เหลี่ยม
1. ด้านประชิด ( adjacent sides ) คือ ด้านสองด้านของรูปสี่เหลี่ยมที่มีจุดปลายร่วมกัน 1 จุด
2. ด้านตรงข้าม ( opposite sides ) คือ ด้านสองด้านของรูปสี่เหลี่ยมที่ไม่มีจุดปลายร่วมกัน
3. มุมประชิด ( adjacent angles ) คือ มุมสองมุมของรูปสี่เหลี่ยมที่มีแขนของมุมร่วมกันอยู่แขนหนึ่ง
4. มุมตรงข้าม ( opposite angles ) คือ มุมสองมุมของรูปสี่เหลี่ยมที่ไม่มีแขนของมุมร่วมกัน
5. มุมภายในของรูปสี่เหลี่ยม ขนาดของมุมภายในทั้งสี่รวมกันได้ 360o
6. เส้นทแยงมุม ( diagonal ) คือ ส่วนของเส้นตรงที่มีจุดปลายทั้งสองอยู่ที่จุดยอดของมุมตรงข้าม
– ชนิดของรูปสี่เหลี่ยม
1. รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ( parallelogram ) คือ รูปสี่เหลี่ยมที่ด้านตรงข้ามขนานกันทั้ง 2 คู่ ซึ่งทำให้ด้านตรงข้ามยาวเท่ากันด้วย เส้นทแยงมุมทั้งสองแบ่งครึ่งซึ่งกันและกัน แต่ยาวไม่เท่ากัน
2. รูปสี่เหลี่ยมคางหมู( trapezoid ) คือ รูปสี่เหลี่ยมที่มีด้านตรงข้ามขนานกันเพียงคู่เดียว
3. รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ( rectangle ) คือ รูปสี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีมุมเป็นมุมฉาก ด้านประชิดยาวไม่เท่ากัน มีผลทำให้ด้านตรงข้ามขนานกันและยาวเท่ากัน เส้นทแยงมุมยาวเท่ากันและแบ่งครึ่งซึ่งกันและกัน
4. รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ( square ) คือ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีด้านทั้งสี่ยาวเท่ากัน มีผลทำให้เส้นทแยงมุมยาวเท่ากันแบ่งครึ่งซึ่งกันและกัน และตัดกันเป็นมุมฉาก
5. รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ( rhombus ) คือ รูปสี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีด้านทั้งสี่ยาวเท่ากัน เส้นทแยงมุมยาวไม่เท่ากัน แต่แบ่งครึ่งซึ่งกันและกัน และตัดกันเป็นมุมฉาก
6. รูปสี่เหลี่ยมรูปว่าว ( kite ) คือ รูปสี่เหลี่ยมที่มีด้านประชิดยาวเท่ากันเพียง 2 คู่เท่านั้น เส้นทแยงมุมยาวไม่เท่ากัน ไม่แบ่งครึ่งซึ่งกันและกัน แต่ตัดกันเป็นมุมฉาก
รูปเรขาคณิตสามมิติ ( three – dimensional geometric figure ) คือ สิ่งต่างๆ รอบตัวเราที่มีลักษณะสำคัญคือ มีความกว้าง ความยาว และความหนาหรือความสูง การจำแนกรูปเรขาคณิตสามมิติ พิจารณาจากรูปร่างลักษณะของรูปเรขาคณิตที่ประกอบกันเป็นทรง
1. ปริซึม (Prism) คือ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีหน้าตัด (ฐาน) ทั้งสองเป็นรูปหลายเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการ และอยู่ในระนาบที่ขนานกัน มีหน้าข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน
ที่มาของภาพ : http://www.thaigoodview.com/node/132600?page=0,10
2. ทรงกระบอก (cylinder) คือ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีหน้าตัด (ฐาน) ทั้งสองเป็นรูปวงกลมที่เท่ากันทุกประการ และอยู่ในระนาบที่ขนานกันมีผิวโค้ง เมื่อคลี่หน้าข้างของทรงกระบอกตามแนวความสูง จะได้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ที่มาของภาพ : http://ganitasastra.wordpress.com/2013/06/15/circle-sphere-cylinder/
3. พีระมิด (Pyramid) คือ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีฐานเป็นรูปหลายเหลี่ยม มียอดแหลม ซึ่งไม่อยู่บนระนาบเดียวกันกับฐาน และมีหน้าข้างเป็นรูปสามเหลี่ยม การเรียกชื่อพีระมิดเรียกตามลักษณะของรูปหลายเหลี่ยมที่เป็นฐาน เช่น พีระมิดฐานสามเหลี่ยม หมายถึง พีระมิดที่มีฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม
ที่มาของภาพ : http://ganitasastra.wordpress.com/2013/04/02/pyramid/
4. กรวย (Cone) คือ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีฐานเป็นรูปวงกลม มียอดแหลมซึ่งไม่อยู่บนระนาบเดียวกับฐาน และมีผิวโค้ง เมื่อคลี่หน้าข้างของกรวยออก จะได้รูปสามเหลี่ยมฐานโค้ง
ที่มาของภาพ : http://www.thaigoodview.com/node/46868?page=0%2C12
5. ทรงกลม คือ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีด้านข้างเป็นผิวโค้งเรียบ และจุดทุกจุดบนผิวโค้งอยู่ห่างจากจุดคงที่จุดหนึ่งเป็นระยะเท่ากัน เรียกจุดคงที่ว่า “จุดศูนย์กลางของทรงกลม” เรียกระยะที่เท่ากันว่า “รัศมีของทรงกลม”