การวิจัยและพัฒนา หมายถึง การสร้างสรรค์ผลงานอย่างเป็นระบบ เพื่อจะสร้างหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการ บริการ หรือการประยุกต์ใช้อื่นๆ โดยการวิจัยและพัฒนาจะแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ
• การวิจัยพื้นฐาน เป็นการสร้างความรู้ใหม่ที่อาจจะไม่สามารถนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้ทันที เช่น การศึกษาถึงสารเคมีชนิดหนึ่งที่ผีเสื้อหลั่งออกมาในตอนกลางคืนว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง
• การวิจัยประยุกต์ เป็นการนำเอาผลที่ได้จากการวิจัยพื้นฐานมาพัฒนาต่อเพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งในขั้นนี้จะเป็นการศึกษาถึงประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่จะได้รับจากสารเคมีที่สกัดออกมาจากตัวผีเสื้อ
• การพัฒนาเชิงทดลอง เป็นการนำเอาความรู้ที่ได้จากการวิจัยในสองขั้นแรกมาใช้ประโยชน์ในการสร้างสิ่งใหม่ หรือปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้วให้มีความก้าวหน้าขึ้น จากตัวอย่างที่ยกมานี้ การวิจัยในขั้นสุดท้ายนี้
- การวิจัยและพัฒนาทำให้รู้ถึงเทรนด์ตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่บริษัทได้ขยายฐานการตลาดออกสู่ต่างประเทศ ที่สำคัญอีกประการคือ ผลของการวิจัยและพัฒนายังเปรียบเสมือนเป็นใบรับรองคุณภาพที่เกี่ยวข้องตามกฎระเบียบหรือข้อกำหนดของคู่ค้าระหว่างประเทศ
- การวิจัยและพัฒนานำไปสู่การพัฒนาโปรดักส์ที่ดีมีคุณภาพ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งอาจทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต ช่วยประหยัดต้นทุน
- การวิจัยและการพัฒนานำไปสู่การบริการที่ดีของทีมงานที่พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
- การวิจัยและพัฒนานำไปสู่การแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเป็นการขยายฐานตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคใหม่
- การวิจัยและพัฒนาทำให้สามารถลดแรงกดดันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กล่าวคือ ในการยืนขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินสามารถที่จะอ้างอิงถึงผลงานการวิจัยและพัฒนาได้
- การวิจัยและพัฒนานำไปสู่ความเข้มแข็งที่ยั่งยืนที่อาจนำธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอันเป็นฐานที่สำคัญซึ่งนำไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ต่อไป
แม้ว่าการวิจัยและพัฒนาและการทำนวัตกรรมนี้ก็เปรียบเสมือนรางรถไฟที่จะต้องสร้างคู่กันไปเสมอ เพื่อให้บริษัทสามารถมุ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน แต่ถ้าให้แนะนำก็ขอแนะนำว่า ให้มุ่งสร้างนวัตกรรมก่อน เพราะลงทุนน้อยกว่า และเห็นผลเร็ว พอเริ่มเก่ง ทุนมากขึ้น ค่อยขยับไปทำวิจัยและพัฒนาเต็มรูปแบบทีหลังจะดีกว่า
www.smethailandclub.com และ https://www.krungsri.com/