ทำอย่างไรดี ?เมื่อเด็กนักเรียนไม่สนใจเรียนออนไลน์ ปัญหาที่เจอในการสอนออนไลน์
เชื่อว่าคุณครูทุกท่านคงประสบปัญหานี้ไม่มากก็น้อย จากการเรียนออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid – 19 ระลอกใหม่
คือ ปัญหานักเรียนไม่เข้าเรียนตามเวลาในตารางสอนที่โรงเรียนกำหนดได้
สืบเนื่องในสภาพโรเรียนของเรา สภาพครอบนักเรียนมีปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนเมื่อโรงเรียนสั่งปิด
จึงเป็นโอกาสทองของนักเรียนที่มักจะไปหารายได้พิเศษ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา
ยิ่งเฉพาะนักเรียน ม.6 ที่ต้องเตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
วิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหา
การแก้ปัญหานี้ จึงได้ปรึกษากับกลุ่มสาระฯ และได้ไอเดียจากการชมภาพยนตร์หรือการแสดงที่แบ่งเป็นรอบ
คุณครูทุกคนในกลุ่มสาระฯจึงเลือกตัดทอนเนื้อหาที่ไม่จำเป้น
ผลลัพธ์ที่ได้
นักเรียนพอใจและเข้ามาเรียนมากขึ้น
. สิ่งที่ได้เรียนรู้ อยากบอกต่อ หรือจะปรับใช้ในครั้งต่อไป
วิธีนี้เป้นวิธีที่ได้ผลดี และเอื้อต่อนักเรียนที่จะเข้ามาเรียนออนไลน์ แต่ครูจะเหนื่อยคูณ 3 เพราะต้องสอนซ้ำ 3 รอบ
ครั้งหน้าอาจจะปรับด้วยการอัดวีดีโอสอน แต่คุณครูในกลุ่มสาระฯยังคงยืนยังใช้วิธีนี้ เพราะเราได้มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ทั้งครูและนักเรียน และนักเรียนกับนักเรียน นอกจากนี้ยังเป้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักเรียนคลายเหงา
จูงใจด้วยรางวัล
ไม่มีใครที่ไม่ชอบรางวัล นักเรียนของเราก็เช่นกัน พวกเขาชอบรางวัล ซึ่งรางวัลในที่นี้อาจไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของที่มีราคา เพียงแค่ครูสอนให้คะแนนพิเศษหลังจากการตอบคำถามของเขา หรือเวลาในการเลิกเรียนที่เร็วขึ้น มันก็อาจเพียงพอแล้วที่จะช่วยให้พวกเขาสนใจการเรียนมากขึ้น
พูดคุยกับนักเรียนโดยตรง
ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการเปิดอกคุยกัน ซึ่งทุกวันนี้ เรามีตัวช่วยมากมายที่ช่วยให้ครูผู้สอนสามารถสื่อสารกับนักเรียน โดยไม่จำเป็นต้องสื่อสารกันโดยตรง โดยเฉพาะกับการระบาดในช่วงนี้ ที่ทำให้การสื่อสารโดยตรงนั้นทำได้ยาก ครูผู้สอนสามารถใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารกับนักเรียนเป็นรายบุคคลได้ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเปิดใจกับครูผู้สอนถึงข้อจำกัดและปัญหาต่าง ๆ ที่เขากำลังเผชิญ ซึ่งทำให้ครูผู้สอนนั้นสามารถช่วยเหลือได้ตรงจุดและทำให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์กับครูผู้สอนเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ข้อควรระวังในเรื่องนี้ คือเรื่องของการติดต่อสื่อสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียน เพราะปัจจุบันมีข้อห้ามชัดเจนเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียนในเรื่องส่วนตัวที่นอกเหนือจากการเรียน มันจึงไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมนัก จึงควรใช้มันเท่าที่จำเป็น และควรบอกกล่าวกับผู้ปกครองของนักเรียนก่อนทุกครั้ง
งัดไม้แข็ง
อาจไม่ใช่วิธีการที่ดี แต่บางครั้งมันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ครูผู้สอนจะต้องวางกฎระเบียบและการลงโทษที่เหมาะสม เพื่อให้นักเรียนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงจัง การกำหนดให้นักเรียนเข้าเรียนออนไลน์ให้ครบ โดยที่สามารถขาดได้เพียงไม่กี่ครั้ง ซึ่งถ้านักเรียนขาดเกินกำหนดจะต้องทำรายงานส่งครูผู้สอน คือกฎที่น่าจะช่วยให้นักเรียนเห็นความสำคัญในการเรียนออนไลน์มากขึ้น มันอาจจะเป็นการบังคับที่ขัดต่อรูปแบบการเรียนออนไลน์ที่ควรเน้นให้นักเรียนสามารถเรียนในช่วงเวลาใดก็ได้ แต่บางครั้งการเข้าเรียนพร้อมกันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนในบางวิชา ครูผู้สอนจึงควรมีการวางกฎเกณฑ์ไว้บ้าง ส่วนจะบังคับใช้แค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอนแต่ละท่านว่าจะใช้อย่างเหมาะสมในระดับใด เพื่อไม่ให้เป็นการบังคับนักเรียนจนเกินไป