ทำไมต้องเรียน Phonics (โฟนิคส์)สำคัญต่อการออกเสียงในภาษาอังกฤษ
Phonics คืออะไร
โฟนิกส์ (Phonics) เป็นวิธีการเรียนรู้เรื่องเสียง สระ พยัญชนะเบื้องต้น ของอักษรทั้งหมดในภาษาอังกฤษ A-Z เป็นพื้น ฐานในการเรียนอ่านเขียนภาษาอังกฤษ ใช้การถอดรหัสเสียงและการผสมเสียงตัวอักษรทั้ง 26 ตัว ผู้เรียนจะต้องเข้าใจเสียงของตัวอักษรต่างๆ และออกเสียงเหล่านั้นให้ได้อย่างถูกต้องจึงจะสามารถผสมเสียงออกมาเป็นคำได้ ยกตัวอย่างเช่น การสะกดคำว่า cat ในสมัยเราๆ จะท่องกันว่า ซี-เอ-ที แคท แมว ซึ่งยากที่จะเข้าใจว่าทำไม ซี-เอ-ที ถึงกลายเป็นแคทไปได้ เพราะการท่องแบบนี้ไม่ได้ใช้หลักการผสมเสียงแต่เป็นการท่องจำการสะกดคำเสียมากกว่า
จากตัวอย่างนี้ ถ้าเรียนตามหลักโฟนิคส์ จะสอนให้รู้จักตัว “c” จากเสียงของมันคือเสียง “ค” (ออกเสียงเคอะ เบาๆ ในลำคอ) ตัว “a” เป็นเสียง “แอะ” และตัว “t” เป็นเสียง “ท
ทำไมต้องเรียน Phonics
ภาษอังกฤษมีตัวอักษรทั้งหมด 26 ตัว มีพยัญชนะ 21 ตัว และสระ 5 ตัว (A E I O U) แต่เสียงในภาษาอังกฤษมี 44 เสียง เกิดจากการผสมอักษร 2 – 3 ตัวที่อยู่ติดกันแล้วทำให้เกิดเสียงใหม่ การเรียนโฟนิคส์ก็เพื่อให้เด็กฟังออก พูดชัด อ่านได้ และเขียนเป็นใน
ที่สุด โดยไม่ต้องอาศัยการท่องจำเป็นหลัก
หลักโฟนิคส์นี้เป็นการเรียนแบบใหม่ที่เพิ่งค้นพบหรือ หลักโฟนิคส์ เป็นหลักการอ่านเขียนที่เรียนกันมาตั้งแต่โบราณแล้ว แต่เมื่อราว 20-40 ปีที่ผ่านมาได้เลือนหายไป เนื่องจากมีทฤษฎีใหม่ที่บอกว่าการอ่านแบบโฟนิคส์นั้นยุ่งยาก กว่าจะแตกเสียง ผสมเสียง จนอ่านเป็นคำนั้นช้าไม่ทันใจ หันมาใช้วิธีเรียนแบบจำคำศัพท์เป็นคำๆ ที่เรียกว่า Whole Language ดีกว่าเพราะเร็วกว่ากันเยอะ โรงเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย จึงเลิกสอนโฟนิคส์ไปตามๆ กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปีกลับพบว่าความสามารถในการอ่านเขียนของประชาชนต่ำลง เพราะคนเรานั้นจดจำคำศัพท์ได้จำกัด และการไม่รู้หลักการสะกดนั้นก็ทำให้อ่านได้ไม่คล่อง เมื่อเห็นคำยากหรือคำใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็ไม่อยากอ่าน ทำให้การอ่านค้นคว้าความรู้ต่างๆ ลดลงตามไปด้วย จึงมีฟื้นฟูการเรียนโฟนิคส์ให้นำกลับมาสอนอีกครั้งเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจหลักการอ่านเขียนอย่างแท้จริง
ดิฉันเอง ช่วงที่พัฒนาหลักสูตรโฟนิคส์สำหรับเด็กไทยนั้น ได้เดินทางไปหลายแห่งเพื่อศึกษาแนวการสอนของต่างประเทศ และได้พบโรงเรียนเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียที่ยึดมั่นใช้การสอนตามหลักโฟนิคส์มาตลอดหลายสิบปีด้วยความเชื่อมั่นและปรากฏว่านักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้สามารถกวาดรางวัลการอ่าน การออกเสียง การเขียนเรียงความทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศได้จนมีชื่อเสียงไปทั่ว ทำให้เชื่อได้เลยว่าหลักโฟนิคส์เป็นประโยชน์สำหรับเด็กๆ
วิธีสอนอ่านคำในภาษาอังกฤษ มีอยู่ 2 วิธี
- สอนอ่านแบบท่องจำทั้งคำ (The Whole Word) หรือ (Look and Say) คือการสอนอ่านแบบดั้งเดิม ให้อ่านตามและท่องจำทั้งคำ ยิ่งเป็นคำยาว ๆ จะทำให้ใช้เวลามากขึ้นในการอ่านและจำ ทำให้การเรียนรู้ช้าและจำกัด อย่างไรก็ตามก็มีคำภาษาอังกฤษบางคำที่การอ่านแบบโฟนิคส์นั้นใช้ไม่ได้ ส่วนใหญ่เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอื่น
- สอนอ่านแบบถอดรหัสเสียงของตัวอักษรในคำ (Phonics) การสอนโฟนิคส์เกิดจากการพบปัญหาว่าการสอนแบบจำทั้งคำ ทำให้เด็กอ่านคำศัพท์ด้วยตัวเองไม่ได้ หากพบคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จัก