เหตุผลที่เราสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้น มีหลายความเชื่อ และมีหลายเหตุผลมารองรับว่า ต้องเป็นเจ้านิ้วนางข้างซ้ายนี่แหละ ที่รับหน้าที่พลีกายให้แหวนได้เป็นตัวแทนแสดงความรักของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันแต่งงาน จากที่มีความเชื่อสืบต่อกันมานานแล้วว่าการแลกแหวนแต่งงานในงานแต่งงาน เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2,800 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวอียิปต์ในยุคนั้นมีความเชื่อว่า นิ้วมือทั้งสิบนิ้วของคนเรา มีเพียงนิ้วนางข้างซ้ายเท่านั้นที่มีเลือดใหญ่ที่ไหลตรงเข้าสู่หัวใจ จึงมีการตั้งชื่อเส้นเลือดดังกล่าวว่า vena amori อันเป็นภาษาละตินซึ่งมีหมายความว่า “เส้นเลือดแห่งความรัก” (vein of love) ตามความเชื่อดังกล่าว ผู้คนจึงยอมรับให้เลือกสวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างซ้าย และการสวมแหวนแต่งงานในนิ้วนางข้างซ้ายนี้เองเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า คู่แต่งงานได้ประกาศมอบความรักนิรันดรให้แก่กันและกัน เพราะฉะนั้นถ้าเราจะรักใคร หรือจะให้คำมั่นสัญญากับใครสักคนเกี่ยวกับความรัก ให้สวมแหวนที่นิ้วนางซ้าย เพื่อให้ส่งตรงไปยังหัวใจ และความเชื่อก็ได้สืบต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน…
นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง …
นิ้วโป้งแทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
นิ้วชี้แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
นิ้วก้อย แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง มีสังคม, ครอบครัว ของตัวเอง
นิ้วนาง แทน “คู่ชีวิต” …ทีนี้ก็เหลือแค่ “คู่ชีวิต” แล้วล่ะ ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่……ว้าวววว!!!
อย่างไรก็ตามก็ยังมีคู่บ่าวสาวบางประเทศที่สวมแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างขวา เช่น ประเทศ เยอรมนี ชีลี หรือชาวคริสต์นิกายออทอดอกซ์ ชาวยุโรปตะวันออก และชาวยิวก็นิยมสวมแหวนแต่งานที่นิ้วนางข้างขวาเช่นกัน
ก็ต้องลองทำตามวิธีนี้กันดูนะคะ แล้วคุณจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของนิ้วนาง โดยเฉพาะถ้านิ้วนางข้างซ้าย ถ้าได้มีแหวนสักวงจากคนที่คุณรักอยู่บนนั้น ^^ (หวานมั้ยล่ะ …) หัวใจคุณจะพองโตอย่างบอกไม่ถูกเลยค่า
-ขอบคุณข้อมูล https://blog.nsru.ac.th/