รถไฟคันแรกของโลก
“รถไฟคันแรกของโลก” เป็นรถจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Rocket ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้วในประเทศอังกฤษโดย จอร์จ สตีเฟนสัน (George Stephenson) ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการรถไฟ โดยสมัยก่อนรถไฟถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรทุกถ่านหิน ลักษณะจะเป็นรถติดล้อ แล่นไปตามรางและใช้สัตว์ในการลากจูง จนเมื่อจอร์จได้สร้างรถจักรไอน้ำที่สามารถแล่นได้ด้วยตัวเองได้สำเร็จ หลังจากนี้เองก็ได้มีผู้เริ่มสร้างรถจักรไอน้ำตามแบบเขาออกมาอีกหลายแบบ เพื่อใช้สำหรับขนส่งสินค้า หรือผู้คน
เป็นวิศกรเครื่องกลชาวอังกฤษ ที่ถูกเรียกว่า “บิดาแห่งทางรถไฟ” ด้วยความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างของรางรถไฟที่มีขนาดมาตฐาน 4 ฟุต (1,435 มม.) ยังคงใช้กันมาจนถึงปัจจุบันด้วยชื่อเรียกสากลว่า “รางมาตฐาน” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “รางสตีเฟนสัน” ที่มีใช้แบบเดียวกันทั่วโลก
ผลงานของสตีเฟนสัน ถือเป็นสิ่งที่พัฒนาให้โลกก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม ด้วยการขนส่งทางรถไฟที่เป็นไปได้ ด้วยต้นทุนที่น้อยลง ถือเป็นเครื่องปฎิวัติวงการอุตสหกรรมในยุคศตวรรษที่ 19 จากช่วยงานของบริษัท Robert Stephenson and Company ที่ เป็นของสตีแฟนสันกับลูกชายของเขาโรเบิร์ต ต่อมาได้พัฒนาหัวรถจักรไอน้ำ Locomotion No. 1 เป็นรถจักรไอน้ำตัวแรกที่ได้ขนส่งผู้โดยสารบนทางรถไฟสาธารณะได้อย่างประสบความสำเร็จ ต่อมาจอร์จยังได้สร้างทางรถไฟสายแรกที่เชื่อมต่อเมืองลิเวอร์พู เข้ากับแมนเชสเตอร์ได้สำเร็จ ซึ่งเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ ปี ค.ศ 1830
จอร์จ สตีเฟนสัน เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปี ค.ศ.1781 ในนอร์ทัมเบอร์แลนด์ เป็นบุตรคนที่สองของ โรเบิรต์ และเมเบิล สตีเฟนสัน ทั้งสองคนไม่สามารถเขียน หรืออ่านหนังสือออกเลย เพราะพี่ชายของเขาทำงานเป็นนักดับเพลง มีเงินเดือนเพียงน้อยนิด ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนให้น้องชาย หรือตัวเองได้ ต่อมาเมื่อสตีเฟนสันอายุได้ 17 ปี เขาได้เป็นคนดูแลสถานีน้ำในนิวเบริน์
ในที่สุดจอร์จก็เข้าใจถึงความสำคัญของการศึกษา ได้จ่ายเงินเข้าเรียนคลาสในตอนกลางคืนเพื่อเรียนอ่าน เขียน รวมไปถึงวิชาคณิตศาสตร์ จนสำเร็จในที่สุดโดยใช้เวลาไปกว่า 1 ปี ต่อมาใน ปี ค.ศ.1801 เขาได้เริ่มทำงานที่ Black Callerton Colliery ในตำแหน่งคนหยุดรถ 1 ปีต่อมาได้แต่งงาน ฟรานซิส เฮนเดอสัน พร้อมกับย้ายไปอาศัยในเมืองท่าวิลลิงตัน ทางตะวันออกของนิวคาสเซิล
เขาอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังนึง ทำงานเป็นคนหยุดรถเหมือนเดิม พร้อมกับทำงานพิเศษอย่าง ทำรองเท้า และซ่อมนาฬิกา เพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว จนปีต่อมาเขาได้ถือกำเนิดบุตรคนแรกตั้งชื่อตามพี่ชายของเขา “โรเบิร์ต” และได้พากันย้ายไปที่เวสมัวร์ หากินด้วยอาชีพเดิมจนได้มีลูกสาวคนที่สองในปี ค.ศ.1805
เธอได้ชื่อตามแม่ แต่น่าตกใจเมื่อเธอเสียชีวิตได้แค่อายุเพียง 3 สัปดาห์ และถูกฝังในนิวคาสเซิล
จอร์จ สตีเฟ่นสันเกิดในเมืองนอร์ทธัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ เริ่มทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรในเหมืองตั้งแต่อายุ 10 ปี เขาเรียนรู้ด้านวิศวกรรมด้วยตัวเองในการซ่อมบำรุงเครื่องชักรอกในเหมืองถ่านหิน ต่อมาเขาประดิษฐ์หัวรถจักรไอน้ำชื่อ “บูชเชอร์” คันแรกพร้อมรางให้กับเหมืองถ่านหินคิลลิ่งเวิร์ธ ในปี พ.ศ.2372 หัวรถจักรไอน้ำที่โด่งดังที่สุดของเขาคือ “ร๊อคเก็ต” ใช้แข่งขันเรนฮิลล์ ไทอัลส์ (Rainhill Trials) ในเส้นทางระหว่างเมืองลิเวอร์พูลกับเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งหัวรถจักรไอน้ำร๊อคเก็ตชนะการแข่งขันด้วยความเร็ว 47 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จอร์จ สตีเฟนสัน ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นผู้สร้างหัวรถจักรเพียงอย่างเดียว ตัวเขายังเป็นผู้ควบคุมทางรถไฟอีกหลายสาย ซึ่งบางครั้งต้องควบคุมการวางรางถึง 5 สายด้วย จนกระทั่งอังกฤษได้มีทางรถไฟเชื่อมเมืองต่างๆ ไปเกือบทั่วประเทศ และประเทศอื่นๆในยุโรปก็สนใจเอารถไฟของอังกฤษนี้ไปสร้างที่ประเทศของตัวเอง นับว่าเขาเป็นผู้บุกเบิกการรถไฟเป็นคนแรกของโลกก็ได้
จอร์จ สตีเฟ่นสัน เสียชีวิตในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2391 ด้วยอายุ 67 ปี หัวรถจักรไอน้ำร๊อคเก็ตที่เขาประดิษฐ์จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ขอบคุณข้อมูล https://www.longmaadoo.com/ และ https://www.midland-ry.org/