สำรวจการใช้งาน
ถ้าอยากรู้ว่า เราต้องสมัครอินเตอร์เน็ตเร็วเท่าไหร่ถึงจะพอสำหรับการใช้งาน ให้เราสำรวจง่าย ๆ ว่าการใช้งานพร้อม ๆ กันสูงสุดคือเท่าไหร่
เริ่มจาก เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเล่นเกมออนไลน์, ฟังเพลงผ่าน Music Streaming, Video Call หรือ การ Surf ไปเรื่อยพวกนี้ ให้เราบวกไป 10 Mbps ต่อเครื่องที่เราใช้งาน
ขึ้นไปหน่อยเป็นการ Stream Video ไม่ว่าจะจาก Youtube, Netflix และ Pornhub เอง ในความละเอียดระดับ 1080p ให้เราบวกไป 25 Mbps ต่อเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นทีวี หรือ อะไรก็ตามที่เปิด
และท๊อปฟอร์มสุด ยกให้การ Stream Video ที่ความละเอียด 4K สำหรับใครที่ใช้จอ 4K ก็แบ่งไว้เลย 50 Mbps ต่อเครื่อง
ส่วน Add-on ก็จะเป็นพวกการดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ ๆ อันนี้ขึ้นกับขนาดไฟล์ที่เราจะต้องโหลดเป็นประจำว่ามันใหญ่ขนาดไหน กับเรารอได้ขนาดไหน ลองไปหาดูได้ มันจะมีเว็บสำหรับคำนวณเวลาในการโหลดเลย เราแค่ใส่ ขนาดของไฟล์ และ ความเร็วลงไป (แนะนำให้หักความเร็วออก 10% เพื่อให้มัน Reflect โลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น)
ทั้ง 3 ส่วนนี้คือส่วนของการดาวน์โหลด ไปที่ฝั่งอัพโหลดกันบ้าง นับเป็นเครื่องที่ใช้งานพร้อม ๆ กันเหมือนเดิม
ตัวแรกคือ การ Video Call หรือการทำ Group Video Call ตรงนี้ เราแนะนำอยู่ที่ 10 Mbps ต่อเครื่องที่ใช้งาน น่าจะเพียงพอสำหรับการ Video Call สัก 7-8 คนพร้อม ๆ กัน
และสุดท้ายคือการอัพโหลดไฟล์ต่าง ๆ ก็เหมือนกับขาดาวน์โหลดเลย ให้ดูขนาดไฟล์แล้วลองคำนวณดูเช่นเดียวกัน
สุดท้าย เราจะได้ความเร็วที่น่าจะเป็นขั้นต่ำในบ้านเราแล้ว เวลาเราไปสมัครอินเตอร์เน็ต เพื่อให้การใช้งานลื่นไหล เราก็จะแนะนำให้เลือกความเร็วที่มากกว่า (ใกล้ที่สุด) ที่เราคำนวณไว้ ก็จะใช้งานได้อย่างพอดีละ หรืออาจจะบวกไปอีก 10% ก็ได้เหมือนกัน
อินเทอร์เน็ตความเร็วเท่านี้ ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
(What can different level of Internet Speed be used for?)
ใครที่สงสัยว่าความเร็วระดับ Mbps หรือ Gbps นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง มาดูกัน
- ความเร็วสำหรับใช้งานเว็บไซต์และอีเมล ขั้นต่ำ 1-5 Mbps
- ความเร็วสำหรับสตรีมเนื้อหาความละเอียด HD ขั้นต่ำ 15-25 Mbps
- ความเร็วสำหรับสตรีมเนื้อหาความละเอียด 4K และแข่งขันเกมออนไลน์ ขั้นต่ำ 40-100 Mbps
- ความเร็วสำหรับสตรีมเนื้อหาความละเอียด 4K เล่นเกมออนไลน์ และดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ ขั้นต่ำ 200 Mbps ขึ้นไป
ความเร็วโดยเฉลี่ยขณะใช้งานจริง
นอกจากความเร็วการอัปโหลด เวลาแฝง (Latency) ตำแหน่งในการใช้งาน อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ “ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัปโหลดเฉลี่ย” โดยทั่วไป ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานจริงจะต่ำกว่าความเร็วในแพ็กเกจหรือโฆษณา 20-50% เลยทีเดียว เนื่องจากสิ่งรบกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wireless Internet) และสัญญาณที่ลดลงขณะเคลื่อนที่ หรือใช้งานด้วยอุปกรณ์ไร้สาย เคลื่อนย้ายที่ได้ รวมถึงการชะลอตัวของเครือข่ายจากต้นทาง
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสายใยแก้วนำแสงหรือไฟเบอร์ออพติก (Fiber Optic) กันแล้ว ซึ่งมีข้อดีในแง่ของความเร็วขณะใช้งาน มีแบนด์วิธ (Bandwidth) ที่เยอะกว่า ทำให้รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก และไม่ถูกรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้าภายนอก เนื่องจากเป็นการนำส่งข้อมูลด้วยแสงนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูล https://arnondora.in.th/ และ https://tips.thaiware.com/