เทคนิคเช็คแกรมม่าและการฝึกเรียนภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง
Grammar ภาษาอังกฤษ คือ กุญแจสำคัญ ในการสื่อสาร ที่ช่วยให้เราสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเข้าใจ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เราสามารถตรวจสอบแกรมม่าได้อย่างง่ายดาย
1. ใช้เวลาสำหรับเนื้อสำคัญที่มักใช้บ่อย
ความพลาดของหลายๆ คนเมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษก็คือวางเป้าหมายที่สูงมาก อยากเก่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน แต่ความสามารถของคนเราก็ไม่เหมือนกัน บ้างทีสี่งที่เราคาดไว้มันก็เกินความสามารถของเราทำให้การเรียนหนัก ไม่มีความสุข เกิดความเบื่อหน่ายง่ายๆ สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน เมื่อเริ่มเรียนจากระดับพื้นฐาน ให้เริ่มจากสี่งที่ใกล้ตัวที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันได้ เรียนรู้สี่งที่เราสนใจไว้ก่อนเพื่อสร้างความกระตือรือร้นสำหรับการเรียนรู้ จะทำให้เราชอบการเรียนอยากเรียนมากกว่าเรื่องบังคับให้ตัวเองต้องเก่งเหมือนคนนั้นคนนี้แล้วเกิดความเครียดจนทิ้งทุกอย่างในที่สุด
สำหรับการเรียนไวยากรณ์แน่นอนอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ ถ้าเราไม่มีแผนเรียนอย่างชัดเจน เรียนมั่วๆ ไปจะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นผู้เรียนควรเริ่มจากการเรียงเนื้อหาสำคัญก่อน อะไรที่สำคัญกว่าก็ใช้เวลาเรียนให้เพียงพอ การเรียนไวยากรณ์ก็เริ่มจากสี่งที่มักจะใช้บ่อยคือ 5 Tense ภาษาอังกฤษที่คุณจำเป็นต้องรู้อย่างเช่น
- Present Simple Tense โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + V.1 (Verb ช่อง1) + O (Object)
- Present Continuous Tense โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + Verb to be (is, am, are,) + V.1(เติม ing)
- Past Simple Tense โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + V.2 (Verb ช่อง2) + O (Object)
- Future Simple Tense โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + will, shall + V.1 (Verb ช่อง1) + O (Object)
- Future Perfect Continuous Tense โดยมีโครงสร้างคือ : S (Subject) + will, shall + have + been + V.1 (เติม ing) + O (Object)
2. เรียนอย่างสม่ำเสมอและไม่ลืมทำบททดสอบ
ต้องแบ่งเวลาเรียนให้เหมาะสม ที่สำคัญคือเรียนอย่างสม่ำเสมอ เรียนทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันหยุด หรือจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตามเรายังสามารถเรียนได้ หรือทบทวนบทเรียนเดิมๆ ก่อนหน้านั้นได้ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งรถเมล์ ตอนออกกำลังกาย หรือตอนทำกับข้าว ตอนอาบน้ำ แค่เราคิดเป็นภาษาอังกฤษมันก็เป็นวิธีทบทวนที่ดีและเพียงพอแล้ว
3. เรียนรู้หลักการเรียนภาษาคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมกัน
สำหรับการสื่อสารคุณสามารถใช้ไวยากรณ์ที่พลาด หรือไม่ถูกต้องสัก 10-15% ชาวต่างชาติก็ยังเข้าใจได้ แต่ถ้าคุณอยากเก่งแบบมือโปร มีโอกาสก้าวหน้ามากขึ้นคุณก็ต้องเสริมสร้างความรู้ครบทั้งสี่ทักษะ คือการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียนเพราะทั้งสี่ทักษะนี้มีความช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ดี
4. เรียงลำดับการเรียน เริ่มจาก คำ ถึง ประโยค สุดท้ายคือ บทความ
แต่ละคำในภาษาอังกฏษก็จะมีความหมายและหน้าที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจำเป็นที่ต้องเข้าใจวิธีการใช้งานให้ถูกต้องก่อนที่คุณจะสร้างเป็นประโยคเช่น
คำนาม: ในประโยคจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เช่น ชื่อคน Jack, Mike…หรือ พูดถึงตัว แมว ไก่ หรือ สถานที่เช่น อัฟริกา มัน ฯลฯ
คำคุณศัพท์: ที่ใช้ในประโยคเพื่อขยายลักษณะของคำนาม เช่น สูง สวย รับผิดชอบ น่าสนใจ ฯลฯ
คำกริยาวิเศษณ์: ใช้ในกรณีเราอยากอธิบาย สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไรและอย่างไรเ หรือบอกปริมาณ ระดับความรุนแรง ความถี่และความคิดเห็นอีกด้วย
คำนำหน้าคำนาม: คำนำหน้านาม เช่น a, an, the ให้เรารู้ว่า เรากำลังพูดถึงอะไรอยู่ ทำหน้าที่ขยายคำนาม มีลักษณะคล้ายคลึงกับคำคุณศัพท์นั้นเองแต่ต้องไปด้วยกับคำนามเท่านั้น
คำกิริยาและกาล (TENSES) :คำกริยาบอกให้เรารู้ว่า เกิดอะไรขึ้นและเกิดขึ้นตอนไหน ในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคต ให้คนอ่านเข้าใจง่ายว่าเรื่องที่กำลังพูดถีงเกิดจากสถานการณ์แบบไหน เป็นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคัญที่จำเป็นต้องเรียนรู้
ขอบคุณข้อมูล https://engbreaking.co.th/