AI กับเทคโนโลยีทางการแพทย์
AI กับการแพทย์และอุตสาหกรรมยานั้นมีมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อดูแลสุขภาพแบบครบวงจร หรือ Health Technology (Health Tech) นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งด้านการตรวจสุขภาพ การวิเคราะห์ วินิจฉัยการค้นคว้าวิจัยทางด้านยาและการแพทย์ แนวทางการนำเทคโนโลยี AI, Machine Learning
AI ผู้ช่วยหุ่นยนต์ศัลยกรรม
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ป่วยโดยนำข้อมูลและประสบการณ์ด้านการผ่าตัดที่เกิดขึ้นจริงในเคสต่างๆมาปรับปรุงพัฒนาเพื่อการผ่าตัดและที่สำคัญคือการใช้ AI หุ่นยนต์เป็นผู้ช่วยผ่าตัดนั้นนับว่าเป็นความเสียหายที่น้อยที่สุด บาดแผลที่เกิดจากการผ่าตัดจะมีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดโดยทีมศัลยแพทย์ ซึ่งจะทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์และลดระยะเวลาการพักรักษาตัวของผู้ป่วยได้มากขึ้น
AI กับมนุษย์
AI และเทคโนโลยีทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง จะทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพเมื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ในทางธุรกิจ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่นเพิ่มความสะดวกในการจัดสรรบุคลากรในสถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มีเวลามากขึ้นในการดูแลรักษาผู้ป่วย และให้คำปรึกษา แทนที่จะต้องเสียเวลากับงานธุรการ เมื่อมีการใช้งาน AI อย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเต็มที่
หากเราคิดถึงแชทบ็อท (Chatbot) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของ AI ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในสำนักงานด้วยระบบอัตโนมัติ ทุกวันนี้แชทบ็อทสามารถให้คำแนะนำได้รวดเร็วกว่าการค้นหาข้อมูลด้วยคนถึง 20% ด้วยการใช้วิธีวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ AI สามารถให้ความช่วยเหลือในงานด้านต่างๆ ของสถานพยาบาล เช่น
- Supply Chain: ในเรื่องของซัพพลายเชน AI จะช่วยตอบคำถามของพนักงานเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตรวจสอบติดตามวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนสต็อกส่วนเกิน นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการค้นหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยการระบุตำแหน่งที่ตั้ง และจัดการเกี่ยวกับการสั่งซื้อและการจัดส่งโดยอัตโนมัติ
- บริการตนเอง: ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์พยายามมองหาหนทางที่จะเพิ่มความสะดวกให้กับงานธุรการ เทคโนโลยี AI เป็นวิธีที่รวดเร็วและถูกต้องในการขับเคลื่อนงานบริการตนเอง (self-service) ระหว่างแผนกต่างๆ ช่วยให้บุคลากรเหล่านี้สามารถทุ่มเทเวลาให้กับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ด้วยการใช้ AI เพื่อทำสิ่งต่างๆ เช่น ตอบข้อซักถามของพนักงานแต่ละคนได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนวันลาหยุดที่เหลืออยู่ ไปจนถึงตารางวันหยุดต่างๆ ซึ่งส่งผลให้โรงพยาบาลสามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- การเงิน: AI ช่วยฝ่ายบัญชีของโรงพยาบาลโดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการชำระเงิน การตรวจสอบการชำระเงิน การระบุรูปแบบใบแจ้งหนี้ และอื่นๆ การใช้ AI เพื่อทำงานประจำที่ไม่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้บริหารฝ่ายการเงินมีเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้น เพื่อกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ในทางปฏิบัติเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฝ่ายการเงินแล้ว ยังช่วยให้ฝ่ายการเงินมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อการดำเนินงานทั้งหมด แทนที่จะดูแลเพียงแค่การเงินและบัญชีในลักษณะเดิมๆ
- สิ่งแวดล้อม: ผู้ป่วยต้องการการรักษาพยาบาลและบรรยากาศที่สงบเงียบเพื่อการพักฟื้น AI จะช่วยบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในโรงพยาบาล ด้วยการประสานงานเกี่ยวกับตารางเวลาของงานบำรุงรักษาที่ทำเป็นประจำ และจัดหาข้อมูลที่จำเป็นให้แก่พนักงานเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดเวลาหยุดทำงานของระบบและอุปกรณ์ต่างๆ และไม่สร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ป่วย
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://techsauce.co/news/%E0%B9%89healthy-revolution-ai