การใช้ตัวเชื่อม (Connective words)
หน้าที่ของ Connective (คำเชื่อม) คือ การเชื่อมประโยค หรือ เชื่อมคำ เข้าด้วยกัน เพื่อให้ประโยคมีใจความสมบูรณ์
Connective words หรือ Connectors แปลว่า “สันธาน” หมายถึง “คำที่ใช้เชื่อมคำ (Words) กลุ่มคำ (Phrases) หรือประโยค (Sentences) เข้าด้วยกัน และให้เข้าใจไว้ด้วยว่า คำที่จะใช้ Connectors สามารถเป็นแบบคล้อยตามหรือขัดแย้งกันได้ อาทิเ
หลักการใช้ Coordinating conjunctions
หลักการใช้ Coordinating conjunctions คือผู้เรียนแค่คำคำศัพท์ FAN BOYS ก็สามารถเอามาใช้งานได้แล้วเพราะมันเป็นตังอักษรย่อจากพวกคำเชื่อมอยู่ในประเภทหนึ่งที่ได้เรียกว่า Coordinating conjunctions คำว่า FAN BOYS ประกอบด้วยคำเชื่อม For, And, Nor, But, Or, Yet, So. ในนั้นแต่ละคำเชื่อมก็จะมีความหมายที่แตกต่างกัน ต้องขึ้นอยู่กับกรณีต่างๆ เราจะใช้ให้ประโยคได้สมบูรณ์แบบและอย่างเหมาะสม
คําเชื่อมภาษาอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย | ยกตัวอย่าง |
For | เพราะว่า | I stopped exercising, for I was tired. แปลว่า ฉันหยุดออกกำลังกายเพราะว่าฉันเหนื่อย |
And | และ (ใช้ในกรณีเชื่อมประโยคไปในแนวเดียวกัน) | She does not like cats and dogs. แปลว่า โหลดไม่ชอบแมวและสุนัข |
Nor | ไม่ทั้งสอง | I am not hungry, nor thirsty. แปลว่า ฉันไม่หิวข้าว และก็ไม่กระหายน้ำด้วย |
But | แต่ | We love English, but don’t like math. แปลว่า พวกเรารักภาษาอังกฤษ แต่ไม่ชอบคณิตศาสตร์ |
Or | หรือ | They chat on Facebook, or they chat on Line. พวกเขาแชททางเฟสบุ๊ค หรือไม่ก็พวกเขาแชททางไลน์ |
Yet | แต่ | She was very sad, yet she did not give up. แปลว่า หล่อนเศร้าเสียใจมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ |
So | ดังนั้น/ ก็ | They chat on Facebook, so they don’t chat on Line. พวกเขาแชททางเฟสบุ๊ค ดังนั้นพวกเขาไม่แชททางไลน์ |
หลักการใช้ Subordinating Conjunctions
คำเชื่อม Subordinating Conjunctions เป็นคำเชื่อมที่มักจะเจอบ่อยมากเมื่อเรียนภาษาอังกฤษเพราะคำเชื่อมที่อยู่ในกลุ่มนี้อยู่ในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายคำเพื่อเชื่อมประโยครองกับประโยคหลักเข้าด้วยกัน จากตารางดังนี้เราจะบ่งบอกหมู่คำเชื่อม Subordinating Conjunctions พร้อมแปลความหมายให้เห็นอย่างชัดเจน
คำเชื่อม Subordinating Conjunctions | ความหมายภาษาไทย |
after | หลังจาก |
although | แม้ว่า |
as | เพราะว่า |
as far as | เท่าที่ |
as if | ราวกับว่า |
as long as | ตราบใดที่ |
as soon as | ทันทีที่ |
as though | ราวกับว่า |
because | เพราะว่า |
before | ก่อน |
even if/ even though | แม้ว่า |
if | ถ้า |
in order that | เพื่อว่า |
since | ตั้งแต่, เพราะว่า, เนื่องจากว่า |
so that | เพื่อว่า |
than | กว่า |
though | แม้ว่า |
unless | เว้นเสียแต่ว่า |
until | จนกระทั่ง |
when | เมื่อ |
whenever | เมื่อใดก็ตาม |
where | ที่ซึ่ง |
whereas | ขณะที่ |
wherever | ที่ใดก็ตาม |
which | ที่ |
who | ผู้ที่ |
while | ในขณะที่ |
“And” หมายถึง “และ” ใช้เมื่อเชื่อมประโยค หรือคำ ที่มีความหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือมีความหมายเหมือนกัน
เช่น Winnie is intelligent and diligent.
“But” หมายถึง “แต่” ใช้เมื่อเชื่อมประโยค หรือคำ ที่มีความหมายในเชิงขัดแย้งกัน หรือไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เช่น He is intelligent but he is not deligent.
“Because” หมายถึง “เพราะว่า” ใช้เมื่อเชื่อมประโยค หรือคำ เพื่อแสดงสาเหตุ หรืออธิบายเหตุผลกัน
เช่น He is exhausted because he studies hard.
“So” หมายถึง “ดังนั้น” ใช้เมื่อต้องการเชื่อมเพื่อบอกผลที่เกิดขึ้น
เช่น She studies hard so she passes the exam.
“or” หมายถึง “หรือ” ใช้เมื่อต้องการเชื่อมประโยคเพื่อเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เช่น Do you want to go to school or museum?
ข้อควรระวัง เมื่อต้องการบอกปฏิเสธของทั้ง 2 สิ่ง เราจะใช้ “or” แทน “and”
เช่น I don’t want orange or apple. /
I don’t want orange and apple. x
ขอบคุณข้อมูล https://www.trueplookpanya.com/