Present perfect tense คืออะไร
Present Perfect Tense เป็น Tense เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
โครงสร้างของ Present Perfect Tense คือ
Subject + has / have + V3 |
has / have ผันตามประธาน ดังนี้
– ประธานเป็นเอกพจน์ (He, She, It, John, Jane) ใช้ Has
– ประธานเป็นพหูพจน์ (I, You, We, They, The dogs, Students) ใช้ Have
หลักการใช้ Present Perfect Tense คือ
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป หรือเพิ่งจบลงใหม่ ๆ มักจะมีคำว่า just, already หรือ yet ในประโยค เช่น
ความหมาย
Already แล้ว
(ทำแล้ว)
Yet ยัง
(ยังไม่ได้ทำ)
Just เพิ่งจะ
(เพิ่งจะทำ)
ความแตกต่าง
ความหมายของทั้ง 3 คำ มีความชัดเจนอยู่ในตัวเองแล้ว ความแตกต่างของ Already Yet และ Just คือใช้บ่งบอกสถานะของเหตุการณ์ที่กล่าวถึง ว่าอยู่ในสถานะใด ระหว่าง เกิดขึ้นแล้ว (already) ยังไม่ได้เกิดขึ้น (yet) หรือเพิ่งจะเกิดขึ้น (just)
Already
I’ve already read that book.
ฉันอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว
He has finished his work already.
เขาทำงานของเขาเสร็จแล้ว
We’ve already made plan for our holiday.
เราวางแผนสำหรับวันหยุดเสร็จแล้ว
Just
I have just finished my lunch.
ฉันเพิ่งจะกินมื้อกลางวันเสร็จ
Jane’s just called. Can you ring him back, please?
เจนเพิ่งจะโทรมา คุณกรุณาช่วยโทรกลับหาเขาได้ไหม
He has just finished reading a book.
เขาเพิ่งจะอ่านหนังสือจบ
โครงสร้างประโยค
just วางไว้ก่อนหน้าคำกริยาหลัก
Yet
I haven’t done my work yet.
ฉันยังทำงานของฉันไม่เสร็จ
Jane hasn’t received email from you yet.
เจนยังไม่ได้รับอีเมลจากคุณ
We haven’t been able to solve the problem yet.
เรายังไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้
โครงสร้างประโยค
yet วางไว้ท้ายประโยค
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและมีผลหรือยังคงสภาพจนถึงปัจจุบัน แต่เหตุการณ์นั้นได้จบลงไปแล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีคำว่า since, for, ever since, so far อยู่ในประโยค เช่น
I’ve known her for years.
(ฉันรู้จักเธอมาหลายปีแล้ว)
Wendy has lived here ever since.
(เวนดี้อยู่ที่นี่มาตั้งแต่บัดนั้น)
3. ใช้ในการเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมีคำว่า never, ever, once, twice รวมอยู่ด้วย เช่น
Have you ever been to Japan?
(คุณเคยไปประเทศญี่ปุ่นไหม)
She has been to Japan twice.
(เธอเคยไปญี่ปุ่นสองครั้ง)
4. ใช้ในโครงสร้าง If-clause แบบที่ 1 ในส่วนของเงื่อนไขที่แสดงว่าถ้าทำเหตุการณ์หนึ่งเสร็จแล้วอีกเหตุการณ์จะเกิดขึ้น เช่น
The children can go out, if they have finished their homework.
(เด็ก ๆ สามารถออกไปเล่นข้างนอกได้ ถ้าพวกเขาทำการบ้านเสร็จ)
การใช้ ever, never, just, already, yet ใน Present perfect tense
Just
I have just finished my lunch.
ฉันเพิ่งจะกินมื้อกลางวันเสร็จ
Jane’s just called. Can you ring him back, please?
เจนเพิ่งจะโทรมา คุณกรุณาช่วยโทรกลับหาเขาได้ไหม
He has just finished reading a book.
เขาเพิ่งจะอ่านหนังสือจบ
โครงสร้างประโยค
just วางไว้ก่อนหน้าคำกริยาหลัก
Ever
คำกริยาวิเศษณ์ ever และ never อธิบายหรือแสดงให้เห็นเวลาที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างเจาะจง ก่อนหน้านี้ (Have you ever visited Berlin?)’ Ever’ และ ‘never’ จะถูกวางไว้ ก่อนหน้ากริยาหลัก (กริยาช่อง 3) โดย Ever จะใช้
ในคำถามตัวอย่างเช่น
Have you ever been to England?
Has she ever met the Prime Minister?
ในประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น
Haven’t they ever been to Europe?
Haven’t you ever eaten Chinese food?
ในประโยคปฏิเสธให้ใช้ nothing+ever หรือ nobody+ever
ตัวอย่างเช่น
Nobody has ever said that to me before.
Nothing like this has ever happened to us.
ใช้กับ ‘The first time’ ตัวอย่างเช่น
It’s the first time that I’ve ever eaten snails.
This is the first time I’ve ever been to England.
Never
Never แปลว่า ไม่เคยจนถึงตอนนี้ และมีความหมายเหมือน not ….. ever (I have never visited Berlin)
โปรดระวัง! ห้ามใช้ never กับ not ด้วยกัน
I haven’t never been to Italy.
I have never been to Italy.
Already
Already หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้ระบุเวลาไว้อย่างชัดเจน บอกให้รู้ว่าไม่ต้องทำซ้ำอีก
ตัวอย่างเช่น
I’ve already drunk three coffees this morning. (= แต่คุณกำลังจะเสนอให้ฉันดื่มกาแฟอีกแก้วหนึ่ง!)
Don’t write to John, I’ve already done it.
นอกจากนี้ already ยังสามารถนำมาใช้ในคำถามได้อีกด้วย
Have you already written to John?
Has she finished her homework already? สามารถวาง Already ไว้หน้ากริยาหลัก (กริยาช่อง 3) หรือวางไว้ตรงท้ายสุดของประโยคก็ได้
I have already been to Tokyo.
I have been to Tokyo already.
Yet
Yet ถูกนำมาใช้ทั้งในประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม หมายความว่า (ยังไม่) ในช่วงเวลาระหว่างก่อนหน้านี้และตอนนี้ และ (ยังไม่) จนถึงปัจจุบัน. โดยทั่วไปแล้ว yet จะถูกวางไว้ตรงส่วนท้ายสุดของประโยค
ตัวอย่างเช่น
Have you met Judy yet?
I haven’t visited the Tate Gallery yet
Has he arrived yet?
They haven’t eaten yet