เหตุผลที่นำทะเล “เค็ม” เพราะน้ำฝนได้ชะล้างสารละลายจำพวกเกลือและแร่ธาตุต่าง ๆ ไหลไปตามแม่น้ำลำธาร แล้วไหลไปสะสมไว้ในทะเล เมื่อน้ำทะเลระเหย สารละลายต่าง ๆ ก็มิได้ระเหยขึ้นไปด้วย ในท้องทะเลจึงมีสารละลายจำพวกเกลือสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก น้ำทะเลจึงเค็มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนั้นบางทฤษฎีก็กล่าวว่า ความเค็มของน้ำทะเลไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เพราะในมหาสมุทรมีกระบวนการของธรรมชาติที่รักษาระดับความสมดุลของเกลือแร่ คือ ถ้าหากว่าธาตุชนิดใดมีในน้ำมากเกินกว่าปกติ ก็จะถูกกำจัดออกจากน้ำทะเลโดยการแยกตัวออกเป็นของแข็ง ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีธาตุใดละลายน้ำน้อยเกินปกติ เกลือแร่ของธาตุนั้นในรูปของแข็ง ก็จะถูกละลายกลับสู่น้ำทะเล ดังนั้น ความเค็มของน้ำทะเลจึงคงที่มาหลายล้านปีแล้วนั่นเอง
หากเราเทน้ำเกลือไว้ในกะละมัง แล้วนำไปผึ่งแดด 2-3 วัน น้ำในกะละมังจะระเหยไปเรื่อยๆ น้ำที่เหลือในกะละมังจะเค็มขึ้นทุกทีสุดท้ายจะเหลือเพียงเกลือขาวๆ ให้เราเห็น ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับน้ำทะเลเมื่อสมัยประมาณหนึ่งล้านปีมาแล้วเช่นกัน น้ำทะเลจะระเหยกลายเป็นไออีกส่วนหนึ่งจะถูกลมพัดไปตกบนพื้นโลก เมื่อฝนตกน้ำส่วนหนึ่งจะไหลลงสู่ทะเล และในขณะที่น้ำไหลลงมานั้นก็จะพัดพาเอาเกลือที่อยู่บนหินและดินลงไปสู่ทะเลด้วย ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นเวลานับล้านๆ ปี จึงเป็นสาเหตุให้น้ำทะเลเค็ม ในน้ำทะเล 1 ลิตร จะมีเกลือหนัก 15 กรัม หากเป็นทะเลปิดเช่นทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) จะมีปริมาณของเกลือสูงมาก
ขอบคุณข้อมูล http://m.bambinoscienza.myreadyweb.com