ข่าวสาร เกร็ดความรู้ทั่วไป

แนวข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2

แนวข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2

แนวข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 คือ ข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานที่จะเข้ามาแทนที่การสอบคณิตศาสตร์วิชาสามัญ โดยเริ่มใช้สำหรับการยื่นสมัครเรียนปีการศึกษา 2566 เป็นต้นไป หรือเรียกง่าย ๆ ว่าจะเริ่มใช้สำหรับ Dek66 เป็นต้นไปนั่นเอง ซึ่งการสอบ A-Level นั้นจะเน้นการประยุกต์ความรู้เชิงวิชาการ และแน่นอนว่าจะออกไม่เกินหลักสูตรการเรียน โดย A-Leve l คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 นั้นจะให้เวลาทำข้อสอบ 1.5 ชม. คะแนนเต็ม 100 คะแนน

รูปเรขาคณิต (ความยาวด้านของสามเหลี่ยม จุดภายนอกและจุดภายใน)

รูปเรขาคณิต (ความยาวด้านของสามเหลี่ยม จุดภายนอกและจุดภายใน)

รูปเรขาคณิต (ความยาวด้านของสามเหลี่ยม จุดภายนอกและจุดภายใน) รูปเรขาคณิต (Geometric figure) เป็นรูปที่ประกอบด้วย จุด เส้นตรง เส้นโค้ง ระนาบ ฯลฯ ตัวอย่างของรูปเรขาคณิต ได้แก่ รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทรงกระบอก พีระมิด ทรงกลม ฯ

การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต

การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต การแปลงสภาพทางเรขาคณิต แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ การเลื่อนขนาน การหมุน การสะท้อน การเลื่อนขนาน (Translation)  คือ การเลื่อนทุกจุดในรูปหน่่งไปบนระนาบ ตามแนวเส้นตรงในทิศทางเดียวกันและเป็นระยะทางเท่ากัน เช่น เลื่อนรูปสามเหลี่ยม ABC ไปทางขวา 10 เซนติเมตร ทุกจุดในรูปสามเหลี่ยม ABC ถูกเลื่อนไปอยู่ในรูปสามเหลี่ยม A’B’C’ การหมุน (Rotation) คือ การหมุนทุกจุดในรูปไปบนระนาบรอบจุดหมุนจุดหน่่งในทิศทางเดียวกันด้วยมุมเท่ากันการหมุนรูปใดๆ มีสิ่งที่ต้องรู้ 3 อย่าง คือ จุดหมุน ทิศทางการหมุน และขนาดมุมในการหมุน การสะท้อน (Reflection) คือ การเลื่อนทุกจุดในรูปไปอยู่อีกฝั่งของเส้นสะท้อน (หรือจุดสะท้อน) โดยทุกจุดของรูปที่สะท้อนห่างจากเส้นสะท้อนเป็นระยะทางเท่ากับที่รูปต้นแบบห่างจากเส้นสะท้อน (หลักการเดียวกับกระจกเงา)

รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ตัวอย่างเช่น สมการ x + 12 = 15 คำตอบของสมการนี้ คือ x = 3 เพราะเมื่อนำ x = 3 แทนในสมอการแล้วเป็นจริง   3 + 12 = 15 โดยในการหาคำตอบของสมการนั้น จะใช้วิธีการที่เรียกว่า การแก้สมการ โดยการแก้สมการนั้น คือ การหาคำตอบจากการใช้สมบัติการเท่ากันในการแก้ ซึ่งเราจะได้ศึกษากันในหัวข้อถัดไป

ไฟฟ้าและแม่เหล็ก

ไฟฟ้าและแม่เหล็ก

ไฟฟ้าและแม่เหล็ก การพัฒนาการของหลักการและแนวคิดทางฟิสิกส์ ได้มีการค้นพบแรงต่าง ๆ มากมาย และได้สรุปเป็นแรงพื้นฐานในธรรมชาติ 4 แรง ซึ่งจะได้ศึกษาในบทต่อไป ดังนี้ 1) แรงโน้มถ่วง (gravitational force) 2) แรงแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic force) 3) แรงเข้ม (strong force) 4) แรงอ่อน (weak force)

ความน่าจะเป็น โอกาสของเหตุการณ์

ความน่าจะเป็น โอกาสของเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์คือจำนวนที่แสดงให้ทราบว่าเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หรือน้อยเพียงใด ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ใด ๆ เท่ากับอัตราส่วนของจำนวนเหตุการณ์ที่เราสนใจ (จะให้เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้) ต่อจำนวนผลลัพธ์ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งมีสูตรในการคิดคำนวณดังนี้

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การแจกแจงความถี่ของข้อมูล

‎การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น-การแจกแจงความถี่ของข้อมูล

‎ ‎การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การแจกแจงความถี่ของข้อมูล หลังจากที่กำหนดตัวแปรที่ต้องการศึกษา และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรที่ต้องการศึกษาแล้ว ข้อมูลที่เก็บได้เรียกว่า ข้อมูลดิบ (Raw Data) เช่น ต้องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสถิติ ก็จะมีการสร้างแบบทดสอบวิชาสถิติขึ้นมา นาไปสอบกับกลุ่มนักเรียนที่ต้องการวัด แล้วตรวจคะแนน คะแนนที่ได้เรียกว่า ข้อมูลดิบ (Raw Data) หรือคะแนนดิบ ซึ่งข้อมูลดิบนี้ยังไม่มีความหมายอะไร วิธีเบื้องต้นที่จะทำให้ข้อมูลดิบนั้นมีความหมายคือการแจกแจงความถี่ ซึ่งจะสามารถทำให้ข้อมูลนั้นสามารถเอาไปใช้ได้ง่ายขึ้น และสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ง่ายขึ้นด้วย

การสร้างตารางแจกแจงความถี่

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น-การสร้างตารางแจกแจงความถี่-คณิตศาสตร์ออนไลน์

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น จะต้องทราบความหมายของคาว่า ตัวแปร ดังนี้ ตัวแปร คือ ลักษณะของประชากรที่สนใจจะศึกษาวิเคราะห์ ซึ่งลักษณะนั้นๆ สามารถเปลี่ยนค่าได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพหรือตัวแปรเชิงปริมาณ