[Full] ติวฟรี!! แก้โจทย์เลขง่ายขึ้นด้วยเทคนิควาดกราฟ โดยใช้แคลคูลัสเบื้องต้น(calculus) ปี 2566 ตอนที่ 2
[Full] ติวฟรี!! แก้โจทย์เลขง่ายขึ้นด้วยเทคนิควาดกราฟ โดยใช้เเคลคูลัสเบื้องต้น(calculus) ตอนที่ 2
ข่าวสาร เกร็ดความรู้ทั่วไป
[Full] ติวฟรี!! แก้โจทย์เลขง่ายขึ้นด้วยเทคนิควาดกราฟ โดยใช้เเคลคูลัสเบื้องต้น(calculus) ตอนที่ 2
การใช้ How about / What about แตกต่างกันอย่างไร How about / What about สองคำนี้ หน้าตาคล้ายกัน มีความหมายคล้ายกันหมายถึง แล้วสิ่งนี้นี่ What about และ How about สองคำนี้ ใช้ในตอนขึ้นต้นประโยคเพื่อแจ้งด้วยวัตถุประสงค์ต่างกัน โดยมีความหมายและตัวอย่างสถานการณ์ที่อยากยกมาให้ดูเป็นตัวอย่างดังนี้
ความรู้คืออะไร? ความรู้นั้นก็มีอยู่ 2 ชนิดคือ 1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในสมอง ( Tacit Knowledge ) อาจเรียกง่ายๆ ว่า ความรู้ในตัวคน ได้แก่ ความรู้ที่เป็นทักษะ ประสบการณ์ ความคิดริเริ่ม พรสวรรค์ หรือสัญชาติญาณของบุคคลในการทำความเข้าใจ สิ่งต่างๆ บางครั้งเรียกว่าความรู้แบบนามธรรม 2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง ( Explicit Knowledge ) อาจเรียกว่าความรู้นอกตัวคน เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่างๆ เช่นการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นหนังสือ ตำราเอกสาร กฎระเบียบ วิธีปฏิบัติงาน เป็นต้น บางครั้งเรียกว่า
NCDs คืออะไร? มาดูกันภัยร้ายใกล้ตัว
Ego คืออะไร? ทำไมอีโก้สูงถึงไม่ดี? การมี Ego ในระดับที่พอดี ด้านดีของมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต มันจะช่วยให้เราแข่งขัน ทำให้คนอื่นรู้ถึงศักยภาพของเราที่หลุดจากกรอบความสำเร็จในอดีต แต่บางครั้ง หลังจากที่เราประสบความสำเร็จ Ego มันมักจะเข้าครอบงำ ทำให้เรามองตัวเองสูงกว่าคนอื่น ทำให้เรากลายเป็นคนที่มั่นใจเกินเหตุและสุดท้ายกลายเป็นผลเสีย ดังนั้นการจัดการ Ego จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
Present Perfect Tense กับ Past Simple Tense ใช้พูดถึงเรื่องราวในอดีต หรือเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่มีความแตกต่างกันที่มักสร้างความสับสน เราจึงจับทั้ง 2 Tenses นี้มาเทียบความแตกต่างกันให้เห็นชัด ๆ
สรุปวิธีการใช้ ❝ Present Continuous ❞ Tense ในภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็น อดีต (Past) ปัจจุบัน (Present) อนาคต (Future) เพื่อใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่ง Tense ที่ Globish จะมาสรุปในวันนี้อยู่ใน Present Tense นั่นก็คือ Present Continuous
ฟังก์ชันกำลังสอง (Quadratic function) ฟังก์ชันกำลังสองเป็นฟังก์ชันที่อยู่ในรูป y = ax2 + bx + c เมื่อ a, b, c เป็นจำนวนจริงใด ๆ และ a ¹ 0 ซึ่งกราฟของฟังก์ชันกำลังสอง เรียกว่า พาราโบลา
ISO เป็นการปรับตั้งพื้นฐานที่ใช้ในการถ่ายภาพเพื่อให้ภาพสว่างหรือมืด หรือเพื่อให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงนั้นๆ ได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องภาพเบลอจากการใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกิน การใช้ ISO ค่าต่ำๆ ความไวในการรับแสงจะน้อยลง การใช้ ISO สูงๆ ความไวในการรับแสงจะสูงขึ้น